ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เกี่ยวข้องกับวิธีการปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) โดยบริษัทในกลุ่มธุรกิจเคิร์ซ (“เคิร์ซ”) เมื่อเจ้าของข้อมูลติดต่อ หรือใช้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ของเคิร์ซผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่เคิร์ซกำหนด ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เคิร์ซมีความตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงมีระบบในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และขั้นตอนการดำเนินงานที่รัดกุม ทั้งนี้ เคิร์ซได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการจัดเก็บ การทำลายข้อมูล อีกทั้งสิทธิของเจ้าของข้อมูล ซึ่งท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ ดังต่อไปนี้
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เคิร์ซทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุถึงตัวเจ้าของข้อมูลหรือทำให้ระบุถึงตัวเจ้าของข้อมูลได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ไม่ว่าเจ้าของข้อมูลได้ให้ข้อมูลไว้หรือมีอยู่กับเคิร์ซ หรือที่เคิร์ซได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม หน่วยงานราชการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ ที่ปรึกษาของเคิร์ซ พันธมิตรทางธุรกิจ หน่วยงาน องค์กร นิติบุคคลใด ๆ ที่มีสัญญากับเคิร์ซหรือที่มีนิติสัมพันธ์กับเคิร์ซ บุคคลที่เจ้าของข้อมูลแต่งตั้งหรือให้เป็นตัวแทน หรือจากแหล่งสาธารณะอื่นใด
1. ข้อมูลทั่วไปที่เป็นการแสดงตัวตน ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ/นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน/เดือน/ปีเกิด ข้อมูลสถานภาพทางการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและการทำงาน ภาพถ่ายใบหน้า ลายมือชื่อ รวมถึงข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลชีวภาพ (ลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า) ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ศาสนา เชื้อชาติ เป็นต้น
2. ข้อมูลติดต่อของเจ้าของข้อมูล เช่น ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลอื่นใดในทำนองเดียวกันที่ใช้เพื่อการติดต่อเจ้าของข้อมูล
3. ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรมของเจ้าของข้อมูลกับเคิร์ซ เช่น หมายเลขบัญชีเงินฝาก หมายเลขบัญชีเงินลงทุน หมายเลขบัญชีซื้อขายหน่วยลงทุน หมายเลขผู้ถือหน่วยลงทุน หมายเลขบัตรเครดิต หมายเลขบัตรเดบิต หมายเลขบัตรเอทีเอ็ม หมายเลขบัตรกดเงินสดหรือบัตรอื่นใดที่ใช้เป็นเครื่องมือในการเบิก/ถอนเงินสำหรับบัญชีสินเชื่อ หรือ รายงานข้อมูลเบิก/ถอนเงินในบัญชี ข้อมูลรายได้ รายจ่าย ยอดเงินฝาก ประวัติสินเชื่อที่มีอยู่กับเคิร์ซ หรือข้อมูลการชำระหนี้ทางการเงิน ข้อมูลจากฐานข้อมูลของกรมบังคับคดี เป็นต้น
4. ข้อมูลความชื่นชอบของเจ้าของข้อมูลในการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เช่น การค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของเคิร์ซ (Website Browsing) จากการใช้ Cookies หรือการเชื่อมต่อเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เจ้าของข้อมูลเข้าไปค้นหาข้อมูล เป็นต้น
5. ข้อมูลการติดต่อกับเคิร์ซ เช่น เทปบันทึกการเข้ามาติดต่อเคิร์ซผ่านทาง Contact Center ซึ่งอาจเป็นภาพหรือเสียง เป็นต้น
6. ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล ในกรณีที่ผู้ติดต่อ คู่สัญญาหรือผู้ที่มีนิติสัมพันธ์กับเคิร์ซเป็นนิติบุคคล และได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลนั้น เช่น พนักงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น กรรมการ บุคคลผู้มีอำนาจ ผู้ติดต่อ ตัวแทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลนั้น ทั้งนี้ นิติบุคคลดังกล่าวจะต้องมั่นใจว่ามีสิทธิที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านี้ และอนุญาตให้เคิร์ซใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้
เคิร์ซทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกรรมและ/หรือใช้บริการกับเคิร์ซ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายตามความจำเป็นของเคิร์ซ และ/หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้แก่เคิร์ซ โดยเคิร์ซจะเก็บรักษาข้อมูลของเจ้าของข้อมูลตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของเคิร์ซ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดได้ดังต่อไปนี้
1. การปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเคิร์ซกับเจ้าของข้อมูลเพื่อให้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ หรือการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูล เช่น การยืนยันตัวบุคคลและการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence) การให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เจ้าของข้อมูลมีกับเคิร์ซ การปฏิบัติตามกระบวนการภายในของเคิร์ซ การรับ-ส่งเอกสารติดต่อระหว่างเจ้าของข้อมูลกับเคิร์ซ การทวงถามเพื่อการชำระหนี้ที่ค้างตามสัญญาที่มีกับเคิร์ซ การทำประกันภัยทรัพย์หลักประกัน
2. การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ เช่น การป้องกันและตรวจจับความผิดปกติของธุรกรรมที่นำไปสู่กิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย การรายงานข้อมูลต่อกรมสรรพากร การรายงานข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือเมื่อได้รับหมายเรียก หมายอายัดจากหน่วยงานราชการหรือศาล เป็นต้น
3. วัตถุประสงค์ที่ต้องได้รับความยินยอมของเจ้าของข้อมูล เช่น เพื่อการติดต่อสื่อสารทางการตลาด การเสนอข้อเสนอพิเศษ เอกสารส่งเสริมการขายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของเคิร์ซ และบุคคลภายนอกซึ่งเคิร์ซไม่สามารถอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นได้
4. ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายตามความจำเป็นของเคิร์ซหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างบน หากเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอม หรือเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือเป็นไปตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างเคิร์ซกับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล เคิร์ซอาจส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ไปยังบุคคลอื่นทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศซึ่งอาจเป็นประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ
เคิร์ซจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลต่อบุคคลที่สามที่ไม่ใช่บริษัทในกลุ่มธุรกิจเคิร์ซ เว้นแต่
(ก) เคิร์ซได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
(ข) เป็นการทำธุรกรรมตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลหรือที่เคิร์ซมีสัญญากับเจ้าของข้อมูล
(ค) เป็นการให้ข้อมูลแก่บริษัทข้อมูลเครดิต หรือหน่วยงานอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน
(ง) เป็นการเปิดเผยข้อมูลตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
(จ) การเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ต้องห้ามตามกฎหมายหรือตามคำสั่งของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเคิร์ซ รวมถึงพนักงาน ตัวแทน หรือที่ปรึกษาของเคิร์ซอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
ตามที่กฎหมายและกฎเกณฑ์ และ/หรือแนวปฏิบัติของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
1. สิทธิในการถอนความยินยอม
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่จะให้ได้หรือได้ให้ไว้แก่เคิร์ซในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูล
เคิร์ซมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่เคิร์ซได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากเจ้าของข้อมูลไม่ประสงค์ที่จะให้เคิร์ซเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป เจ้าของข้อมูลสามารถแจ้งเคิร์ซเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเคิร์ซ หรือขอให้เคิร์ซเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอมได้
3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้เคิร์ซดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้ความเข้าใจผิด
4. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอรับข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองจากเคิร์ซ ในกรณีที่เคิร์ซได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เคิร์ซส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค หรือเคิร์ซมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมแก่เคิร์ซในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เคิร์ซจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้เจ้าของข้อมูลสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของเคิร์ซตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับเคิร์ซ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของเคิร์ซ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
5. สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้เคิร์ซลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เช่น ในกรณีที่ท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าธนาคารเคิร์ซหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยอีกต่อไป หรือกรณีที่เจ้าของข้อมูลได้ใช้สิทธิถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตน เป็นต้น
6. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราว
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้ระงับการ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราว ในกรณีที่เคิร์ซอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่เคิร์ซหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่เจ้าของข้อมูลขอให้เคิร์ซระงับการใช้แทน
7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกิจกรรมที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้
8. สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่ท่านเชื่อว่าเคิร์ซทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้
การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่เคิร์ซอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น
เคิร์ซมีการกำหนดนโยบาย คู่มือและมาตรฐานขั้นต่ำในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของท่านโดยมิได้รับอนุญาตหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และเคิร์ซได้มีการปรับปรุงนโยบาย คู่มือและมาตรฐานขั้นต่ำดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทนหรือผู้ให้บริการภายนอกของเคิร์ซมีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามสัญญารักษาความลับที่ลงนามไว้กับเคิร์ซ
ในกรณีที่เคิร์ซมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าประเทศไทย เคิร์ซจะดำเนินมาตรการตามที่เห็นว่าจำเป็นอย่างน้อยตามมาตรฐานการรักษาความลับที่กฎหมายประเทศนั้น ๆ กำหนดไว้ เช่น มีข้อสัญญารักษาความลับกับคู่สัญญาในประเทศดังกล่าว เป็นต้น
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้เป็นลูกค้าของเคิร์ซอีกต่อไปหรือยุติความสัมพันธ์กับเคิร์ซไปแล้ว เคิร์ซจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนดและตามนโยบาย หรือคู่มือต่าง ๆ ในเรื่องการจัดเก็บ ทำลายเอกสารต่าง ๆ ของเคิร์ซ เช่น พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กำหนดให้จัดเก็บไว้อย่างน้อย 10 ปีนับแต่วันที่มีการยุติความสัมพันธ์กับลูกค้า เป็นต้น และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาแล้วเคิร์ซจะทำการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
เคิร์ซอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว โดยเคิร์ซจะแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของเคิร์ซ
หากเจ้าของข้อมูลต้องการติดต่อ หรือมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล การใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ โดยสามารถติดต่อเคิร์ซตามข้อมูลที่แจ้งไว้ในแต่ละช่องทางการบริการของเคิร์ซ
Copyright ® 2024 kirz.com
สวัสดีค่ะ