Skip to Content

5 ข้อความปลอดภัย เมื่อต้องทำงานกับสาย Fiber

เวลาทำงานกับเน็ตเวิร์กไม่ว่าจะเชิงพาณิชย์ หรือตามโรงงานอุตสาหกรรม แม้สายใยแก้วนำแสงดูเหมือนจะปลอดภัย เพราะไม่ได้นำกระแสไฟฟ้าเหมือนสายทองแดง ไม่ได้เกิดความร้อนอะไร ทำให้หลาย ๆคนมองข้ามอันตรายที่แท้จริงของสายไฟเบอร์ที่อาจถือว่าอันตรายมากที่สุดในกลุ่มสายเคเบิลแล้ว! 

กฎเหล็ก 5 ข้อเพื่อความปลอดภัยในการทำงานกับสายไฟเบอร์ดังต่อไปนี้

1. เข้าใจมาตรฐานการทำงานกับสายเคเบิล

การติดตั้งสายไฟเบอร์ใหม่ หรือการซ่อมสายไฟเบอร์เดิมที่มีอยู่นั้น ต้องมีความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องจะทำให้ทีมงานของเราทำงานกันอย่างปลอดภัย และติดตาม Project ต่างๆ ได้อย่างมีมาตรฐาน ซึ่งมาตรฐานที่เกี่ยวข้องการกับการทำงานด้านสายเคเบิลนั้นได้แก่

  • ข้อกำหนดด้านการบริหารจัดการสุขภาพ ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน (OSHA) ของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่ครอบคลุมถึงการติดตั้ง และดูแลตัวนำไฟฟ้าของสายไฟเบอร์ รวมทั้งระบุมาตรฐานด้านประสิทธิภาพขั้นต่ำที่จำเป็นในการทำงาน โดยในกฎ OSHA 29 CFR 268 ด้านโทรคมนาคมนั้น ในหลายรัฐจะมีแผนที่เรียกว่า OSHA State Plan ที่ต้องศึกษาจากสำนักงาน OSHA ใกล้ตัวคุณด้วย
  • ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางไฟฟ้าแห่งชาติ (NESC) ออกโดยสถาบันด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์หรือ IEEE ระบุถึงแนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัยในการติดตั้ง ดำเนินงาน ดูแลสายสื่อสาร และสายไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อกำหนดฉบับใหม่จะออกมาบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 สามารถเข้าไปศึกษาได้แล้วในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
  • National Electrical Code® (NEC) หรือ NFPA 70 ครอบคลุมเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ทั้งด้านการออกแบบ ติดตั้ง และการตรวจสอบ ใน 50 รัฐของสหรัฐฯ ซึ่งมีการตีพิมพ์ออกมาทุก 3 ปี โดยสมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติ หรือ NFPA ทั้งนี้กฎหมายในแต่ละรัฐ หรือของท้องถิ่นมักระบุให้ช่างไฟฟ้าต้องทำตาม NEC นี้ รวมทั้งมีกฎหมายบางฉบับที่ออกมาเจาะจงกับการติดตั้งสายไฟเบอร์โดยเฉพาะด้วย
  • สุดท้าย ควรทำตามขั้นตอนการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยของบริษัทตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นงานใดก็ต้องปฏิบัติตาม

2. รักษาความสะอาด

แกนหลักของสายใยแก้วนำแสงคือ แก้วดีๆ นี่เอง ถึงแม้จะมีประสิทธิภาพในการส่งต่อข้อมูลมาก แต่ก็บอบบางมากเช่นกัน อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้ เมื่อได้รับความเสียหาย หรือแตกหัก การควบคุม และทำความสะอาดเศษแก้วในงานแต่ละครั้งจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งความสะอาดของตัวเอง และในพื้นที่ปฏิบัติงาน

  • ใส่แว่นนิรภัย พร้อมหน้ากากใสอีกชั้น (สามารถใส่ครอบแว่นอีกทีหนึ่งได้ถ้าต้องการ) เพื่อป้องกันเศษใยแก้วกระเด็นเข้าดวงตา พยายามเอามือห่างจากใบหน้าระหว่างปฏิบัติงาน และก่อนที่จะสัมผัสใบหน้า หรือคอนแทคเลนส์ ต้องล้างมือให้สะอาดจริงๆ เสียก่อน
  • สวมผ้ากันเปื้อนที่ใช้แล้วทิ้งได้เลยเพื่อลดโอกาสที่เศษใยแก้วนั้นจะกระเด็นเข้ามาฝังตามเสื้อผ้าแล้วกระจายไปพื้นผิวอื่น หรือเศษใยแก้วอาจติดตัวกลับบ้านไปด้วย
  • ไม่ทานอาหาร หรือเครื่องดื่มในพื้นที่ปฏิบัติงานรวมถึงไม่สูบบุหรี่ด้วย เพราะไม่เพียงเศษอาหารอาจไปปนเปื้อนกับงานที่ทำอยู่เท่านั้น ละอองจากเศษใยแก้วที่เรามองไม่เห็นแต่สามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้นั้น ก็อาจจะปนเปื้อนเข้าไปในอาหารได้ด้วย หากเราทานเข้าไปแล้วอาจทำให้ตกเลือดภายใน จนถึงแก่ชีวิตได้
  • ตรวจสอบให้มั่นใจว่าพื้นที่ปฏิบัติงานมีอากาศถ่ายเทสะดวกเพื่อลดความเสี่ยงที่ละอองใยแก้วจากสายที่ทำงานอยู่กระจายขึ้นอากาศแล้วทำให้หายใจเข้าไปได้
  • กำจัดเศษสายใยแก้วทั้งหมดอย่างเหมาะสมต้องทิ้งเศษสายใยแก้วในถังขยะที่ติดป้ายจำเพาะอย่างที่ชัดเจน มีฝาปิดสนิท
  • เคลียร์พื้นที่ปฏิบัติงานให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นประกายไฟ หรือแหล่งความร้อน อย่างเช่น การใช้ตัวสไปซ์เชื่อมสายร่วมกับเตาบ่ม เพื่อลดโอกาสการเกิดเพลิงไหม้
  • ทำความสะอาดเมื่อจบวันเพื่อควบคุมเศษใยแก้ว และทำให้ทุกคนในพื้นที่นั้นปลอดภัย

3. เข้าใจถึงสารเคมีที่กำลังใช้งานอยู่

ขั้นตอนการสไปซ์สายไฟเบอร์ และการเชื่อมเข้าหัวสาย ต้องใช้ทั้งสารเคมี สารทำความสะอาด และกาวเชื่อมที่หลากหลาย ดังนั้นเราจึงควรทำความเข้าใจ กับเอกสารข้อมูลในด้านความปลอดภัย หรือ MSDS ของสารเคมีที่นำมาใช้ และปฏิบัติตนตามขั้นตอนการดูแลสารเคมีดังกล่าวอย่างเคร่งคัด เพื่อความปลอดภัย

4. ระวังสภาพแวดล้อมโดยรอบ

การลากสายไฟเบอร์มักต้องใช้พื้นที่ร่วมกับสายเคเบิลอื่นๆ รวมถึงสายที่เป็นตัวนำไฟฟ้าด้วย ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ปิด, บนเสา, ใกล้สายไฟ หรืออุปกรณ์เดินไฟฟ้า ซึ่งเสี่ยงต่ออันตราย ตั้งแต่การเผลอทำอุปกรณ์ร่วงลงมากระแทกกับเท้าไปสัมผัสโดนเศษแก้วบาด ไปจนถึงไฟดูด แก๊สระเบิด หรือไฟรั่วตามลวดสายต่างๆ ดังนั้นเราจึงควรระวังสภาพแวดล้อมรอบตัว และอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าตรงพื้นที่หน้างาน หรืองานที่กำลังทำอยู่ตรงหน้า พยายามเว้นระยะตามกฎระยะห่างขั้นต่ำของ NFPA เมื่อต้องทำงานใกล้สายไฟ หรือแหล่งกำเนิดไฟฟ้า

5. ใช้เครื่องมือให้เหมาะสม

เราไม่ควรจ้องไปที่ปลายสายไฟเบอร์โดยตรง ถึงแม้ว่าเราจะมองไม่เห็นอะไรระหว่างที่สายเคเบิลดังกล่าวกำลังใช้งานอยู่ก็ตาม แต่แสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็นนี้ สามารถทำร้ายดวงตาคุณได้ การใช้เครื่องมือที่ถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณทำงานได้ดีกว่าและเร็วกว่าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่เป็นไปได้อีกด้วย

แปลโดย : kirz.com 

อ้างอิงจาก : flukenetworks.com