Skip to Content

สาย Fiber Optic คืออะไร

สาย Fiber Optic คืออะไร

สาย Fiber Optic หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "สายใยแก้วนำแสง" คือสายสัญญาณที่ผลิตจากเส้นใยแก้วบริสุทธิ์ หรือพลาสติกที่มีความละเอียดสูงมาก ใช้หลักการส่งข้อมูลด้วยแสง ทำให้สามารถส่งสัญญาณได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ปัจจุบัน Fiber Optic ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบสื่อสารข้อมูลยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเครือข่ายภายในอาคาร (Network Backbone), อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือแม้กระทั่ง โครงข่ายโทรศัพท์

คุณสมบัติเด่นของ Fiber Optic

Fiber Optic มีคุณสมบัติที่เหนือกว่าสายสัญญาณแบบดั้งเดิมหลายประการ

  • แกนกลางขนาดเล็ก: ภายในประกอบด้วยเส้นใยแก้วหรือพลาสติกที่มีความบริสุทธิ์สูงมาก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กเท่าเส้นผมของมนุษย์
  • ส่งสัญญาณได้ไกล: สามารถรับ-ส่งสัญญาณข้อมูลได้ในระยะทางไกลหลายกิโลเมตร โดยที่คุณภาพของสัญญาณยังคงดีเยี่ยม
  • การสูญเสียสัญญาณต่ำ: มีการลดทอนของสัญญาณ (Signal Loss) น้อยมากตลอดระยะทาง ทำให้ข้อมูลเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของ Fiber Optic

สาย Fiber Optic แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ขึ้นอยู่กับลักษณะการเดินทางของแสงภายในเส้นใย:

  • เส้นใยแก้วนำแสงชนิดโหมดเดี่ยว (Singlemode Optical Fibers, SM): ออกแบบมาเพื่อให้แสงเดินทางผ่านได้เพียงโหมดเดียว (เส้นทางเดียว) เหมาะสำหรับการส่งข้อมูลในระยะทางไกลมากๆ และให้แบนด์วิธที่สูง
  • เส้นใยแก้วนำแสงชนิดหลายโหมด (Multimode Optical Fibers, MM): อนุญาตให้แสงเดินทางได้หลายโหมด (หลายเส้นทาง) เหมาะสำหรับการส่งข้อมูลในระยะทางที่สั้นกว่า เช่น ภายในอาคาร หรือระหว่างอาคารที่อยู่ใกล้กัน

การประยุกต์ใช้งาน Fiber Optic ในปัจจุบัน

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ทำให้ Fiber Optic ถูกนำมาประยุกต์ใช้งานในหลากหลายด้าน:

  • ระบบเครือข่ายหลัก (Network Backbone): ใช้เป็นสายสัญญาณหลักในอาคารสูง หรือในองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเชื่อมโยงระบบเครือข่ายเข้าด้วยกัน
  • การรับส่งสัญญาณภาพและวิดีโอ: เหมาะสำหรับการส่งสัญญาณภาพและวิดีโอคุณภาพสูงในระยะไกล เช่น ระบบกล้องวงจรปิด หรือระบบถ่ายทอดสัญญาณ
  • การเชื่อมต่อสัญญาณระยะไกล: เป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและระบบโทรคมนาคมที่เชื่อมโยงระหว่างเมืองหรือประเทศ

Fiber Optic จึงเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ขับเคลื่อนการสื่อสารข้อมูลในโลกยุคปัจจุบันให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยความเร็ว ความเสถียร และความสามารถในการรองรับข้อมูลปริมาณมหาศาล