เตรียมรับมือ Email Spam จะมาไม่หยุด เพราะอาวุธใหม่อย่าง ChatGPT

การแข่งขันทางอาวุธระหว่างผู้บล็อกสแปมและผู้ส่งสแปมกำลังจะทวีความรุนแรงขึ้นพร้อมกับการเกิดขึ้น ChatGPT ทำให้ผู้ส่งอีเมลขยะสามารถมีเครื่องมือใหม่ในการเลี่ยงการตรวจสอบ ดึงดูดความสนใจของผู้คน และโน้มน้าวให้พวกเขาคลิก ซื้อ หรือให้ข้อมูลส่วนตัว

สแปม (Spam) หรือ Email Spam หมายถึง สิ่งที่แฮกเกอร์จะส่งมาให้เราทางอีเมล รวมไปถึงข้อความ แชทต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย หรืออื่นๆ เพื่อล่อลวงข้อมูลส่วนตัว รหัสต่างๆ ให้ซื้อของบางอย่าง คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ติดตั้งมัลแวร์ และอื่นๆ อีเมลหนึ่งฉบับสามารถสร้างรายได้ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง 

ผู้ให้บริการด้านอีเมลต่างๆ อย่าง Google หรือ Microsoft Outlook ต่างพยายามหาวิธีป้องกันพวกสแปมที่ส่งมาในอีเมล คัดกรองให้ผู้ใช้เพื่อที่จะได้ไม่เผลอไปกด

หลังจาก ChatGPT ถือกำเนิดขึ้น (รวมถึง AI อื่นๆ ที่กำลังจะตามมา) พวกผู้ไม่หวังดี จะมีเครื่องมือใหม่ที่ทรงพลังมากขึ้น ที่จะสร้างข้อความเพื่อหลบเลี่ยงระบบคัดกรอง สร้างโค้ด หรืออื่นๆ ที่ทำให้การส่งสแปมนั้นง่ายขึ้น ซึ่งต้องทำใจยอมรับว่า ต่อไปนี้ เราอาจเจอข้อความ ขอบริจาคเงิน ผู้ค้ายาเสพติด ผู้ประสบภัยทางสงคราม(ปลอม) ที่ขอให้โอนเงินช่วยเหลือ และอื่นๆ อีกมากมาย

ChatGPT คือเครื่องมือแชทบอท AI ที่พัฒนาจากบริษัท OpenAI ในการสร้างบทสนทนา และสามารถตอบได้ทุกคำถาม แต่ก็ยังสามารถปฏิเสธการตอบคำถามได้ หากคำถามนั้นเป็นข้อมูลอันตราย หรืออาจนำไปสู่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยบริษัท OpenAI มีความคาดหวังว่า ChatGPT จะถูกนำไปช่วยเหลือในงานต่างๆ เช่น การเขียนอีเมล เรียงความ รวมถึงเขียนโค้ดต่างๆ  รวมถึงสร้างประโยชน์และความสะดวกสบายต่างๆ

นอกจากนี้ นักสร้างสแปมยังสามารถสั่งให้ AI เขียนอีเมลหลอกลวง ด้วยคำสั่งแบบสั้นๆ ทำให้ได้อีเมลที่ดูมีความน่าเชื่อถือ เข้าใจบริบทของภาษาต่างๆ ทำให้การคัดกรองด้วยความรู้ การป้องกันตัวเองแบบเก่ายากมากขึ้น เช่น สมัยก่อนถ้าเป็นอีเมลสแปม การใช้ภาษาจะดูแปลก ใช้ภาษาผิดๆ หรืออ่านแล้วไม่เข้าใจ ทำให้เราก็จะรู้ทันทีว่ามันหลอกลวง แต่ถ้ามันเขียนด้วย AI ความหน้าเชื่อถือก็จะมีเพิ่มมากขึ้นด้วยรูปประโยค และภาษาที่ใช้

สิ่งที่จะป้องกันตัวเองได้ดีคือ อย่าไปกดลิงก์ ดาวน์โหลดไฟล์ อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับใครง่ายๆ อย่าหวังเพิ่งระบบป้องกัน เพราะส่วนใหญ่ที่โดนก็มาจาก Human Error ทั้งนั้น

ที่มา : gizmodo.com