สาย Fiber Optic มีกี่แบบ และแตกต่างกันอย่างไร


2024-08-15 16:25:11

สาย Fiber Optic คืออะไร

ก่อนจะไปถึงชนิดของสาย Fiber Optic เราลองมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาย Fiber Optic คืออะไร สาย Fiber Optic หรือ สายใยแก้วนำแสง เป็นสายเคเบิลที่ใช้เส้นใยแก้วในการส่งสัญญาณข้อมูลในรูปแบบของแสง ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าสายเคเบิลแบบดั้งเดิมอย่างสายทองแดง เนื่องจากมีความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูงมาก เสถียร และไม่ถูกรบกวนจากสัญญาณรบกวนภายนอก ทำให้ถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบโทรคมนาคม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ


สาย Fiber Optic สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามลักษณะการนำแสง


1. สายใยแก้วนำแสงแบบ Single-mode

มีเส้นผ่าศูนย์กลางของแกนกลาง (Core) ขนาดเล็กมาก ประมาณ 9 ไมครอน ทำให้แสงเดินทางผ่านได้เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น เหมาะสำหรับการส่งข้อมูลในระยะทางไกล เช่น การเชื่อมต่อระหว่างเมืองหรือประเทศ สายชนิดนี้สามารถส่งข้อมูลได้ในระยะทางตั้งแต่ 5 กิโลเมตร ถึง 120 กิโลเมตร โดยไม่ลดความเร็วของสัญญาณ


ข้อดี

  • มีการสูญเสียสัญญาณน้อยมาก ทำให้ส่งสัญญาณได้ในระยะทางไกล
  • ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบเครือข่ายที่มีความเร็วสูง


ข้อเสีย

  • ต้องใช้แหล่งกำเนิดแสงที่มีความแม่นยำสูง เช่น เลเซอร์
  • มีราคาสูงกว่าสายใยแก้วนำแสงแบบ Multi-mode


การใช้งาน: นิยมใช้ในระบบเครือข่ายหลัก ระบบโทรคมนาคม และการเชื่อมต่อระหว่างอาคาร


2. สายใยแก้วนำแสงแบบ Multi-mode

สายไฟเบอร์ออฟติกแบบ Multi-Mode มีเส้นผ่าศูนย์กลางของแกนกลาง (Core) ใหญ่กว่า Single-Mode ประมาณ 50-62.5 ไมครอน ทำให้แสงสามารถเดินทางผ่านได้หลายเส้นทางพร้อมกัน เหมาะสำหรับการส่งข้อมูลในระยะทางสั้น เช่น ภายในอาคารหรือบริเวณที่มีการใช้งานใกล้เคียงกัน


ข้อดี:

  • การติดตั้งและเชื่อมต่อง่ายกว่า
  • มีราคาถูกกว่าสายใยแก้วนำแสงแบบ Single-mode


ข้อเสีย:

  • มีการสูญเสียสัญญาณมากกว่า
  • ความเร็วในการส่งข้อมูลต่ำกว่า Single-Mode 
  • เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะทางสั้นๆ


การใช้งาน: นิยมใช้ภายในอาคาร เช่น การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในด้าต้าเซ็นเตอร์ และเครือข่ายภายในองค์กร


การเลือกใช้สาย Fiber Optic


การเลือกใช้สายไฟเบอร์ออฟติกควรพิจารณาจากความต้องการในการใช้งาน เช่น ระยะทางในการส่งข้อมูล ความเร็วที่ต้องการ และงบประมาณที่มี การเลือกใช้สายที่เหมาะสมจะช่วยให้การส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น

  • ระยะทาง: หากต้องการส่งสัญญาณในระยะทางไกล ควรเลือกใช้สายใยแก้วนำแสงแบบ Single-mode
  • ความเร็ว: หากต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลสูง ควรเลือกใช้สายใยแก้วนำแสงแบบ Single-mode
  • งบประมาณ: หากมีงบประมาณจำกัด สามารถเลือกใช้สายใยแก้วนำแสงแบบ Multi-mode สำหรับการใช้งานในระยะทางสั้นๆ
  • สภาพแวดล้อม: สภาพแวดล้อมในการติดตั้งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณา เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และแรงสั่นสะเทือน


สาย Fiber Optic เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการส่งสัญญาณข้อมูลในปัจจุบัน การเลือกใช้สายใยแก้วนำแสงที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบเครือข่ายของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด และตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้อย่างครอบคลุม


ทีมการตลาด เคิร์ซ


Copyright ® 2024 kirz.com