Microsoft Windows Server ออกแบบมาสำหรับใช้งานในเครื่อง Super Computer หรือ Server ที่มีการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากๆ ในเวลาเดียวกัน ซึ่งใช้ในการเก็บบันทึกข้อมูลสำหรับองค์กรต่างๆ
Windows Server คือระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์ (Server OS : Server Operating System) อย่างหนึ่ง ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับเครื่อง Super Computer หรือ เครื่อง Server ที่มีการประมวลข้อมูลจำนวนมากพร้อมๆ กัน รองรับการเข้าใช้งาน หรือเข้าถึงข้อมูลพร้อมกันหลายๆ คนได้ อย่างเช่น Web Server, File Server, Data Center Server, Mail Server เป็นต้น
วินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ถูกพัฒนา และผลิตขึ้นโดย Microsoft Corporation เป็นการพัฒนาจาก Windows NT ซึ่ง Windows Server รุ่นแรกสุดคือ Windows NT 3.1 Advanced Server ตามด้วย Windows NT Server รุ่น 3.5, 3.51, 4.0 และ Windows 2000 Server ตามลำดับ ซึ่งรุ่นแรกที่วางจำหน่ายจริง ขายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2003
มีกี่เวอร์ชั่น (Version)
Windows Server มีหลาย Version ซึ่งมีการพัฒนาปรับปรุง และอัพเดตใหม่ทุกๆ 1-2 ปี จากรุ่นหลัก ในส่วนนี้จะใส่เป็นชื่อรุ่นที่จำหน่าย พร้อมปีที่เปิดตัวดังนี้
Windows NT 3.1 Advanced Server (July 1993)
Windows NT Server 3.5 (September 1994)
Windows NT Server 3.51 (May 1995)
Windows NT 4.0 Server (July 1996)
Windows 2000 Server (December 1999)
Windows Server 2003 (April 2003)
Windows Server 2003 R2 (December 2005)
Windows Server 2008 (February 2008)
Windows Server 2008 R2 (October 2009)
Windows Server 2012 (September 2012)
Windows Server 2012 R2 (October 2013)
Windows Server 2016 (October 2016)
Windows Server 2019 (October 2018)
Windows Server 2022 (August 2021)
Windows Server มีจำหน่ายอยู่หลายเวอร์ชั่น ในแต่ละ Version จะถูกแบ่งออกเป็น 3 Edition คือ Essential Edition, Standard Edition และ Datacenter เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท และขนาดขององค์กร
ซอฟต์แวร์ (Software License) และ บริการของ Microsoft นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไม่ว่าจะเป็น
OEM (ติดตั้งมากับคอมพิวเตอร์)
Full Package (เป็นกล่องขายปลีก)
SPLA (เช่าใช้รายเดือนผ่านออนไลน์)
Volume (ซื้อใช้ตามประเภทขององค์กร)
License ของ Windows ที่นิยมกันจะมีให้เลือกใช้อยู่ 3 แบบด้วยกันคือ
1.Volume License
จะเป็น License แบบที่ใช้กันทั่วไป ซึ่งมันคือแบบซื้อขาด ซื้อครั้งเดียวจบ ส่วนใหญ่มักจะใช้กันตาม Office หรือ On-premise ราคาจะถูกคิดตามสเปคของ Server ซึ่งแบบ Volume License นี้ จะไม่สามารถ Upgrade เป็นเวอร์ชั่นอื่นได้ ตัว License Key ก็จะฝังติดอยู่กับเมนบอร์ด (Mainboard, Motherboard) ของเครื่องนั้น ๆ เท่านั้น ไม่สามารถย้ายเครื่องในการติดตั้งใหม่ได้
2.SPLA License
แบบนี้จะเหมือนการเช่าโปรแกรมใช้งาน มักจะเห็นการใช้งานบ่อยบน Cloud ซึ่งปัจจุบัน Microsoft ผลักดันผลิตภัณฑ์ของพวกเขาในรูปแบบการให้บริการผ่าน Cloud มากขึ้น อย่าง Microsoft Office ตอนนี้ก็มีการให้บริการผ่าน Cloud ซึ่งเวอร์ชันเต็มหรือ License เลยก็ต้องมีการเช่าโปรแกรมเช่นกัน
3.CSP (Cloud Solution Provider)
เป็นรูปแบบการขายแบบ Cloud Service ของ Microsoft ซึ่งทำให้ Partner และลูกค้า มีความยืดหยุ่นในการสั่งซื้อ โดยสามารถเลือกซื้อแบบเช่ารายเดือน หรือรายปีได้ และสามารถปรับเปลี่ยนแพลนได้ตามต้องการ ช่วยลดต้นทุน ดีกว่าแบบซื้อขาดในครั้งเดียว แถมยังได้ Upgrade เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดได้ตลอด หรือตามข้อตกลงในสัญญาการเช่า หากวันข้างหน้ามีการปรับเปลี่ยนสเปคของ Server เครื่องนั้นๆ ก็สามารถเพิ่มหรือลดค่าบริการในส่วนนั้นได้เช่นกัน ส่วนใหญ่การเช่าจะเป็นแบบ On Cloud นั่นเอง
การซื้อ License นั้นประกอบไปด้วย 2 ส่วน ที่จะทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ คือ
CPU Core จะนับเป็น Physical Core หรือ Virtual Core ก็ได้ ตามการใช้งาน อย่างเช่น เครื่อง Server ที่ใช้มี 16 Cores ก็ต้องซื้อแบบ Per Core 8 License ( 1 License = 2 Cores) แตกหากเครื่อง Server มีจำนวน Core ไม่ถึง ก็ต้องซื้อ License ให้ครอบคลุม 16 Cores เหมือนเดิม เนื่องจากเป็นขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้
CAL (Client Access License) คือ License ที่จะทำให้มีสิทธิ์ในการเข้าใช้งานเครื่อง Server ได้ โดย CAL จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ
ROK ย่อมาจาก Reseller Option Kit เป็นรูปแบบการจัดจำหน่าย License Software สำหรับตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพที่ได้พิสูจน์แล้วว่ามีการจัดราคาที่เหมาะสม เพื่อไปจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจได้อย่างถูกต้อง สำหรับแบรนด์นั้นๆ เท่านั้น
ROK คือ windows server ประเภทหนึ่ง เป็นระบบปฏิบัติการ OS มีลักษณะแบบเดียวกันกับเวอร์ชั่นอื่นๆ ที่ซื้อได้โดยตรงจาก Microsoft แต่ด้วยข้อตกลงของเครื่อง Server แต่ละแบรนด์ ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถปรับแต่งการตั้งค่า และประสิทธิภาพของวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์เวอร์ชั่นพิเศษโดยเฉพาะ ให้เหมาะสมแบรนด์ตัวเองได้ เพื่อให้เข้ากับตัวเครื่องโดยเฉพาะ และใช้ใน Server ของแบรนด์ตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้กับ Server แบรนด์อื่นได้ เช่น Windows Server ROK ของ HPE ก็ต้องใช้กับ HPE Server เท่านั้น, ROK ของ Dell ก็ใช้กับ Dell Server หรือ ROK ของ Lenovo ก็ใช้กับ Lenovo Server เท่านั้น เป็นต้น
Windows Server ROK จัดอยู่ในกลุ่มของ OEM License (Original Equipment Manufacturer) ไม่สามารถย้ายเครื่องได้ หากติดตั้งเครื่องไหนแล้ว ก็จะฝังอยู่กับเครื่องที่ติดตั้งไว้เท่านั้น
ข้อดีของวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ประเภทนี้ คือ มีราคาค่อนข้างถูกกว่าแบบเวอร์ชั่นทั่วไปที่จำหน่ายโดย Microsoft ทำให้สามารถเข้าถึงองค์กร และกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่มีอุปกรณ์ Computer Server ติดตั้งเป็นแบรนด์ชั้นนำใช้งานอยู่แล้ว ได้สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น
ที่มา : makeuseof.com ; windows8facile.fr ;n6host.com ; mychoicesoftware.com
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ท่านได้รับการบริการที่ดีที่สุด โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายความเป็นส่วนตัว ที่ลิงก์นี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้