Storage มีความสำคัญต่อการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างมาก การเลือกใช้ Storage ที่เหมาะสมจะช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเก็บรักษาข้อมูลได้อย่างปลอดภัย มาเรียนรู้ Storage แต่ละประเภทให้ตรงตามการใช้งานกันค่ะ
Storage คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?
Storage หรือที่เก็บข้อมูล เป็นส่วนประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทำหน้าที่เก็บรักษาข้อมูลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ โปรแกรม หรือระบบปฏิบัติการ ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ประเภทของ Storage
Storage สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและเทคโนโลยีที่ใช้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
1. Storage แบบถาวร (Non-Volatile Storage)
เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเก็บข้อมูลได้แม้ว่าจะไม่ได้รับพลังงานไฟฟ้า โดยแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทดังนี้
ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (Hard Disk Drive: HDD)
- เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบแม่เหล็กที่เก่าแก่ที่สุดและมีราคาถูกที่สุด
- ประกอบด้วยจานแม่เหล็กที่หมุนและหัวอ่าน/เขียน
- มีความจุสูง แต่ความเร็วในการอ่านเขียนค่อนข้างช้า
โซลิดสเตตไดรฟ์ (Solid State Drive: SSD)
- เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบแฟลชเมโมรีที่ไม่มีส่วนประกอบที่เคลื่อนไหว
- มีความเร็วในการอ่านเขียนสูงมาก ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้รวดเร็วขึ้น
- มีราคาแพงกว่า HDD แต่มีความทนทานและใช้พลังงานน้อยกว่า
แฟลชไดรฟ์ (Flash Drive)
- เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบพกพาที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ SSD
- มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และสามารถพกพาไปได้ทุกที่
การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card)
- ใช้ในการเก็บข้อมูลในอุปกรณ์พกพา เช่น กล้องดิจิทัล กล้องวิดีโอ และโทรศัพท์มือถือ
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก (External Storage)
- เช่น ฮาร์ดดิสก์ภายนอก, แฟลชไดรฟ์ภายนอก, และฮาร์ดดิสก์เครือข่าย (NAS)
2. Storage แบบชั่วคราว (Volatile Storage)
เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเก็บข้อมูลได้เพียงชั่วคราว ข้อมูลจะหายไปเมื่อไม่มีกระแสไฟฟ้าเข้าไปเลี้ยง โดยทั่วไปจะใช้เป็นหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์ เช่น
แรม (Random Access Memory: RAM)
- เป็นหน่วยความจำหลักที่ใช้ในการเก็บข้อมูลที่โปรแกรมกำลังใช้งานอยู่ในขณะนั้น
- มีความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลสูงมาก แต่เมื่อปิดเครื่อง ข้อมูลในแรมจะหายไปทั้งหมด
ทีมการตลาด เคิร์ซ